พระนอนวัดขุนอินทประมูล
พระนอนวัดขุนอินทประมูล หรือ พระศรีเมืองทอง ประดิษฐานอยู่
ณ วัดขุนอินทประมูล ต.อินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
อยู่ห่างจากตัวเมืองอ่างทองประมาณ 13 กิโลเมตร
องค์พระยาว 1 เส้น 5 วา หรือ 50 เมตร
ซึ่งนับเป็นพระนอนหรือพระพุทธไสยาสน์ที่ยาวเป็นอันดับที่สอง
รองจากพระนอนที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
คือ พระนอนที่วัดบางพลีใหญ่กลาง จ. สมุทรปราการ
สมเด็จพระศากยมุณีศรีสุเมธบพิตร ซึ่งยาว 53 เมตร
ส่วนพระนอนจักรสีห์ จ.สิงห์บุรี ยาว 47 เมตร
จากตำนานกล่าวว่า ขุนอินทประมูล ได้ยักยอกเงินหลวงมาสร้าง
ครั้งถูกสอบถามว่าเอาเงินจากใหนมาสร้างพระ
ขุนอินทประมูลก็ไม่ยอมบอกความจริง
จึงถูกลงโทษจนตาย คงมีความชื่อที่ว่า
ถ้าบอกแหล่งที่มาของเงินแล้ว
ตนจะไม่ได้กุศลตามที่ปรารถนา
จากการสันนิษฐานมีความเห็นว่า
ได้สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา
พระพักตร์ หันไปทางทิศเหนือ พระเศียรหันไปทางทิศตะวันออก
เมื่อมองตลอดทั้งองค์มีความสง่างามมาก
พระพักตร์ งดงามได้สัดส่วน แสดงออกถึงความมีเมตตา
ปัจจุบัน องค์พระนอนอยู่กลางแจ้งไม่มีวิหารคลุม
เช่นพระนอนองค์อื่น
เนื่องจากวิหารเดิมคงหักพังไปนานแล้ว ดังจะเห็นได้จาก
เสาพระวิหารที่ยังปรากฏอยู่รอบองค์พระนอน
รอบ ๆ องค์พระมีต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้นขึ้นอยู่โดยรอบ
ทำให้มีความสงบร่มเย็น เหมาะแก่การไปนมัสการ
ให้เกิดความสุข สงบ ตามธรรมชาติ
ซึ่งแปลกออกไปจาก บรรยากาศในพระวิหาร
มีงานนมัสการองค์พระช่วงปลายเดือนเมษายนของทุกปี
(ให้ไปสัมผัสที่ฝ่าพระบาทพระนอน ท่านจะประทานพรให้มีอายุยืนยาว)
พระนอนวัดขุนอินทประมูล หรือ พระศรีเมืองทอง ประดิษฐานอยู่
ณ วัดขุนอินทประมูล ต.อินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
อยู่ห่างจากตัวเมืองอ่างทองประมาณ 13 กิโลเมตร
องค์พระยาว 1 เส้น 5 วา หรือ 50 เมตร
ซึ่งนับเป็นพระนอนหรือพระพุทธไสยาสน์ที่ยาวเป็นอันดับที่สอง
รองจากพระนอนที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
คือ พระนอนที่วัดบางพลีใหญ่กลาง จ. สมุทรปราการ
สมเด็จพระศากยมุณีศรีสุเมธบพิตร ซึ่งยาว 53 เมตร
ส่วนพระนอนจักรสีห์ จ.สิงห์บุรี ยาว 47 เมตร
จากตำนานกล่าวว่า ขุนอินทประมูล ได้ยักยอกเงินหลวงมาสร้าง
ครั้งถูกสอบถามว่าเอาเงินจากใหนมาสร้างพระ
ขุนอินทประมูลก็ไม่ยอมบอกความจริง
จึงถูกลงโทษจนตาย คงมีความชื่อที่ว่า
ถ้าบอกแหล่งที่มาของเงินแล้ว
ตนจะไม่ได้กุศลตามที่ปรารถนา
จากการสันนิษฐานมีความเห็นว่า
ได้สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา
พระพักตร์ หันไปทางทิศเหนือ พระเศียรหันไปทางทิศตะวันออก
เมื่อมองตลอดทั้งองค์มีความสง่างามมาก
พระพักตร์ งดงามได้สัดส่วน แสดงออกถึงความมีเมตตา
ปัจจุบัน องค์พระนอนอยู่กลางแจ้งไม่มีวิหารคลุม
เช่นพระนอนองค์อื่น
เนื่องจากวิหารเดิมคงหักพังไปนานแล้ว ดังจะเห็นได้จาก
เสาพระวิหารที่ยังปรากฏอยู่รอบองค์พระนอน
รอบ ๆ องค์พระมีต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้นขึ้นอยู่โดยรอบ
ทำให้มีความสงบร่มเย็น เหมาะแก่การไปนมัสการ
ให้เกิดความสุข สงบ ตามธรรมชาติ
ซึ่งแปลกออกไปจาก บรรยากาศในพระวิหาร
มีงานนมัสการองค์พระช่วงปลายเดือนเมษายนของทุกปี
(ให้ไปสัมผัสที่ฝ่าพระบาทพระนอน ท่านจะประทานพรให้มีอายุยืนยาว)
Comments
Post a Comment