Skip to main content

หุบป่าตาด ป่าดึกดำบรรพ์ อุทัยธานี


หุบป่าตาด อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เป็นหนึ่งในแคมเปญท่องเที่ยว "อันซีนไทยแลนด์" ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ให้การสนับสนุนสถานที่ท่องเที่ยว แปลกใหม่มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ปัจจุุบัน หุบป่าตาด ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว มาเที่ยวชมกันจำนวนมาก


     หุบป่าตาด ตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี บริเวณนี้เป็นเทือกเขาหินปูน ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางพื้นที่ราบและพื้นที่เกษตรกรรมเรือกสวนไร่นาของชาวบ้าน
     สำหรับเส้นทางศึกษาธรรมชาติในหุบป่าตาดนั้น ปัจจุบันทางเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุนได้มีการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ดี มีการจัดทำลานจอดรถอย่างดี มีส่วนจัดแสดงนิทรรศการกลางแจ้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับหุบป่าตาด และสถานที่ท่องเที่ยวในละแวกใกล้เคียง มีการปรับปรุงเส้นทางเดินชมศึกษาธรรมชาติให้ดูกลมกลืนกับธรรมชาติและดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น


เส้นทางเข้าไปยังป่าดึกดำบรรพ์ เป็นบันไดเดินขึ้นเขาชันเล็กน้อยก่อนนำเข้าสู่อุโมงค์หุบป่าตาด ซึ่งทางพื้นที่ ตั้งชื่อว่าเป็น “อุโมงค์แห่งกาลเวลา” เนื่องจากมันเป็นเส้นทางที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้าไปยัง ผืนป่าดึกดำบรรพ์ เมื่อเดินพ้นอุโมงค์ปากหุบไป จะพบกับหุบเขาหินปูนขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ภายในมี 2 ห้องโถงโล่งใหญ่ๆ ให้เดินศึกษาระบบนิเวศของหุบป่าตาด พืชพันธุ์ สัตว์ป่า และเรื่องราวทางธรณีวิทยา และพันธุ์ไม้ที่น่าสนใจ
โถงถ้ำกลางหุบเขา ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของหุบป่าตาดที่หินงอกหินย้อยอันสวยงามปรากฏอยู่ทั่วไป แม้หินส่วนใหญ่จะเป็นหินตาย แต่ก็ยังคงมีหินเป็นบางส่วนที่กำลังเกิดเติบโตขึ้นมา เป็นหินปูนสีขาวกำลังหยดย้อยลงมาอย่างสวยงาม


     ในผืนป่าดึกดำบรรพ์ของหุบป่าตาดยังมีอีกหนึ่งความน่าทึ่งหนึ่งเดียวในโลก เฉพาะในช่วงหน้าฝนเท่านั้น นั่นคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “กิ้งกือมังกรสีชมพู” มีการค้นพบเป็นแห่งแรกที่หุบป่าตาดแห่งนี้ ซึ่งถูกค้นพบโดยสมาชิกในชมรมคนรักกิ้งกือ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 พบครั้งแรกที่หุบป่าตาด นับเป็นอีกหนึ่งการค้นพบในแวดวงธรรมชาติวิทยาสำคัญของบ้านเรา
 สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจไป เยี่ยมชม หุบป่าตาด ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ป่าดึกดำบรรพ์ สามารถ ไปเที่ยวชมได้ทุกวัน ค่าเข้าชมคนละ 20 บาทเท่านั้น และทางเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือ ห้ามนำอาหาร และเครื่องดื่ม เข้าไปด้านในเขตพื้นที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วย



Comments

Popular posts from this blog

สวรรค์บนดินที่เคล้ามนต์เสน่ห์ ดินแดนแห่งขุนเขา ดอยอินทนนท์ จุดชมวิว กม 41

 จุดชมวิว กม 41 เป็นจุดชม วิวพระอาทิตย์ ขึ้น ทะเลหมอก ยอดนิยมอีกจุดหนึ่งของ ดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ก่อนถึงพระธาตุ จุดชมวิวที่ตั้งอยู่ระหว่างทางไปยอดดอยอินทนนท์ โดยนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา มักมาจอดรถชมทะเลหมอกในยามเช้า

ร้านอาหาร MOAI COFFEE ราชบุรี

ร้านอาหาร MOAI COFFEE ราชบุรี ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี แลนด์มาร์กสุดชิค แห่งใหม่ของสวนผึ้ง “Moai Coffee” นำรูปแบบ ประติมากรรมหิน “โมอาย” แห่งเกาะอีสเตอร์ จากอุทยานแห่งชาติลาปานุย ประเทศชิลี หนึ่งในมรดกโลกมาเป็นแนวคิดหลักในการตกแต่ง รูปปั้นเหล่านี้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เห็นเด่นชัด นักเดินทางที่ผ่านไปมาก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ส่วนการตกแต่งภายในก็ยังคงแนวคิดลึกลับ บาคาร่า แต่แฝงความเท่โดยใช้สีดำเป็นโทนหลัก Moai Coffee มีกาแฟสดอาราบิก้าแท้ 100% ผ่านการคั่วบดอย่างดี  น้ำผลไม้ อิตาเลียนโซดา และอาหารสไตล์ Fusion Food เช่น สลัดโมอาย พอร์คชอปให้เลือกลิ้มลอง           เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. สอบถามข้อมูล : โทรศัพท์ 08 1986 6554 เว็บไซต์ : www.moai-coffee.com ขอขอบคุณแหล่งที่มา thai.tourismthailand.org

สถานี เกษตรหลวงอินทนนท์

สถานี เกษตรหลวงอินทนนท์   เป็นสถานีวิจัยที่ดำเนินงานวิจัยทางด้านไม้ดอก-ไม้ประดับพืชผลและไม้ผล โดยความน่าสนใจของสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์  ก็คือ สวน 80 ที่มีดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ และโรงเรือนจัดแสดงพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ อย่างเช่น กล้วยไม้ เฟิร์น และสวนกุหลาบพันปี  # ปิโกเนีย รวมถึงโรงเรือนปลูกผัก  โดยนอกจากนี้สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ก็ยังให้บริการร้านอาหารสโมส ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติ ซึ่งมีเมนูหลากหลายชนิด คัดสรรวัตถุดิบสั่งตรงจากโครงการหลวงโดยเฉพาะผักสด สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ พิกัดหมู่บ้านขุนกลาง ตำบลห้วยหลวง เดินทางตามเส้นทางไป ดอยอินทนนท์ ถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 31 ของทางหลวง หมายเลข 1009 มีทางแยกขวามือ แล้วเข้าสู่สถานีอีกประมาณ 1 กิโลเมตร